สำคัญต่างๆ ได้เปลี่ยนแนวทางการเจรจาเป็นแบบแบ่งปัน ผลประโยชน์หรือ Package Benefits บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน ทำให้ ประเทศไทยรอดพ้นจากการถูกตอบโต้ทางการค้า ม. 301 ของสหรัฐอเมริกา มาได้เราสามารถขยายเวลาการคุ้มครองคอมพิวเตอร์ซอฟแวร์ และสิทธิ- บัตรยามาได้อีก 3 ปี เรายอมแลกผลประโยชน์กับสหรัฐ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล โดยยอมเสียผลประโยชน์ของเราเพียงเล็กน้อย การยอมให้สหรัฐตั้งโรงกลั่น นํ้ามันคาลเท็กซ์หรือการให้ตั้งโรงงานกระจกการ์เตียนซึ่งเป็นคู่แข่งกับโรงงาน ขายแพยางโดนัส กระจกอาซาฮีซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนที่สำคัญของพรรคชาติไทยในขณะนั้น การเจรจาการค้ากับสหรัฐนี้เอง ทำให้เรามีความจำเป็นต้องจ้าง ล็อบบี้ยิสต์ เพื่อไปทำหน้าที่ล็อบบี้ผลประโยชน์ของไทยในรัฐสภาและฝ่ายบริหารของ รัฐ ซึ่งทุกประเทศเขามีผลประโยชน์กับสหรัฐ เขามีกันหมด แม้แต่ประเทศ เพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย สิงคโปร์ หรือ พนมรุ้งพีลิปปินสํประเทศเราดูจะมี หลังสุดเลย ซึ่งที่ผ่านมาเขายอมรับว่า การล็อบบี้ในลักษณะดังกล่าวมีจริง แต่ได้ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติที่ควรได้รับเป็นที่ตั้ง เรื่องนี้ พลเอก ชาติชาย ได้มอบหน้าที่นี้ให้กับดร.สุรเกียรต เสถียรไทย ดูแลและดร.สุร- เกียรติก็สร้างผลงานให้แก่ล่วนรวมเป็นอย่างดี โดยเฉพาะผลงานด้านการ เจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกาขณะที่งานด้านนโยบายสังคม รัฐบาลของพลเอกชาติชายเป็นรัฐบาล แรกที่มีการแต่งตั้ง คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายสังคม เพื่อดูแลกำกับงานด้าน สังคม ผลงานที่ชัดเจนก็คือการกำหนดวันครอบครัวแห่งชาติ การควบคุมและ อาถรรพ บ้านพิษณุโลกการแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ การสงเคราะห์แก่ผู้ขาดที่อยู่อาศัย โดยอนุม้ติเงิน 250 ล้านบาท ให้กรุงเทพมหานคร ไปจัดซื้อที่ดินให้แก่ชุมชนแออัด และ แก้ไขปัญหาทีดินทำกิน ของประชาซนในเขตพื้นที่ป่าขณะเดียวกัน ยัง1ได้'จัดเวทีองค์กร'พัฒนาเอกชน'พบหน่วยราชทารเป็น ครังแรกในป 2533 ห่วงยางคอราคาถูก จัดสัมมนาระดมสมอง เพือแก้ไขปัญหาที่ทำกับประชา'ซน ในพืนทีปา อันเป็นที่มาของร่างกฎหมายปาชุมชน ซึ่งที่ผ่านมาได้ถูทต่อ ต้านจากพรรคร่วมรัฐบาลที่ดูแลกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์อยู่ในขณะนั้น แต่ผลการสัมมนาก็ ส่งผลให้ทุกฝ่าย ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และเป็นจุดเปลี่ยนให้หน่วยงาน ราชการ หันมาสนใจปัญหาที,ทำกินอย่างจริงจัง และเกิดการยอมรับบทบาท ขององค์กรพัฒนาเอกชนเป็นครั้งแรกนอกจากนีได้คืนเสรีภาพในการนำเสนอข่าวของสื่อมวลซนโดยได้ ยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 42 หรือ ปร.42 ซึ่งใช้ มาตังแต่ปี 2519 เพือคืนเสรีภาพในการเสนอข่าวสารให้แก่สื่อมวลซน เพราะ ตระหนักดีว่าในสังคมประชาธิปไตยนั้น ทุกอย่างต้องเปิดเผยสามารถตรวจ สอบได้ และการตรวจสอบโดยสือ อุปกรณ์เล่นน้ำในสระ มวลชนก็เป็นหนทางหนึ่งของการธำรงไว้ ซึ่งระบอบประชาธิปไตยจุดเด่นของบ้านพิษณุโลกก็คือ การเสนอข้อมูลที่เป็นจริงต่อ รุ้ฐบาล เพื่อประกอบการด้ดสินใจของคณะรัฐมนตรี โดยเรื่องที่เสนอ ให้คณะรัฐมนตริพิจารณานั้น ได้รับการเสนอข้อมูลประกอบการ พิจารณาแทบทุกเรื่อง ซี่งก็มีที่งที่คณะรฐมนตริเห็นด้วย ก้ปข้อเสนอ และบางเรื่องอาจมีความเห็นแย้งเพราะเหตุผลทางการเมืองแต่ก็
แพยางโดนัส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น